ในปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในฐานะหัตถการเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัด เพื่อช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงรูปลักษณ์ของใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และมีมิติมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ควรมาพร้อมกับข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่พึงพอใจ บทความนี้จัดทำขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก The Vanish Clinic เพื่อเป็นคู่มือที่ครอบคลุมทุกแง่มุมที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์คืออะไร? ทำความเข้าใจสารเติมเต็มเพื่อความงาม
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือสารเติมเต็ม คือ สารที่ใช้ฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง เพื่อเพิ่มปริมาตร เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก หรือปรับรูปทรงของใบหน้าให้ได้สัดส่วนตามต้องการ สารที่นิยมใช้มากที่สุดคือ ไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและมีความปลอดภัยสูง การเลือกใช้ HA ฟิลเลอร์เป็นที่นิยมเนื่องจากมีความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ที่สามารถฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้หากเกิดปัญหาหรือไม่พึงพอใจในผลลัพธ์
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในการเสริมความงามสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ :
- ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Fillers): ส่วนใหญ่เป็นสาร HA มีระยะเวลาคงอยู่ประมาณ 6-18 เดือน และเป็นชนิดที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย ฟิลเลอร์ชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองการปรับรูปหน้าหรือเติมเต็มริ้วรอยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์ถาวร
- ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Fillers): มักทำจากวัสดุ เช่น แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite) หรือ โพลีแลคติก แอซิด (Polylactic Acids) สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี และในบางชนิดยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
- ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Fillers): ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน ซึ่งไม่สามารถสลายได้เองในร่างกาย ฟิลเลอร์ชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยมสำหรับการฉีดบนใบหน้าเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและแก้ไขได้ยากหากเกิดปัญหา
หลักการทำงานของฟิลเลอร์: เติมเต็มริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้อย่างไร
หลักการทำงานของฟิลเลอร์ HA คือ การฉีดสาร HA เข้าไปในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง ซึ่ง HA มีคุณสมบัติพิเศษในการดึงดูดและกักเก็บน้ำได้ดี เมื่อ HA ฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีริ้วรอยร่องลึกหรือสูญเสียปริมาตร ก็จะทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบ เต่งตึง และริ้วรอยดูตื้นขึ้น นอกจากนี้ ในบางกรณี HA ฟิลเลอร์ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติของผิวได้อีกด้วย
ความคงทนและลักษณะเนื้อสัมผัสของฟิลเลอร์ HA ขึ้นอยู่กับกระบวนการที่เรียกว่า การเชื่อมข้ามโมเลกุล (Cross-linking) การเชื่อมข้ามโมเลกุลในระดับที่แตกต่างกันจะส่งผลให้ฟิลเลอร์มีระยะเวลาคงอยู่และความหนืดที่แตกต่างกัน ทำให้แพทย์สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการฉีดและปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้อย่างแม่นยำ
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์? และใครควรหลีกเลี่ยง?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณและความงามดังต่อไปนี้ :
- ผู้ที่มีริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือรอยตีนกา
- ผู้ที่สูญเสียปริมาตรของใบหน้า เช่น แก้มตอบ ขมับยุบ หรือใต้ตาลึก
- ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำหรือมีร่องลึกใต้ตา
- ผู้ที่มีริมฝีปากบางหรือต้องการปรับรูปทรงของริมฝีปากให้สวยงามยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีคางสั้นหรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวและได้สัดส่วน
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่การฉีดฟิลเลอร์อาจไม่เหมาะสมหรือควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ :
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบบริเวณที่จะฉีด
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้สารประกอบในฟิลเลอร์หรือยาชา (หากมี)
- ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ง่าย
- ผู้ที่มีความคาดหวังที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์
(ความคิดเห็นจากแพทย์): การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดก่อนการฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประเมินความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ทำความเข้าใจความต้องการและเป้าหมายของคนไข้ รวมถึงอธิบายถึงความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ การแจ้งประวัติการรักษาและยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอย่างครบถ้วนจะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ฉีดฟิลเลอร์ตรงไหนได้บ้าง? บริเวณยอดนิยมและสิ่งที่ควรรู้
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลากหลายบริเวณบนใบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาและเสริมความงาม :
- ฟิลเลอร์ใต้ตา: ช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น การฉีดบริเวณนี้ต้องใช้ความระมัดระวังและมักเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและยืดหยุ่น
- ฟิลเลอร์ปาก: ช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรงให้ได้สัดส่วน และแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง บริเวณนี้มีการเคลื่อนไหวบ่อย จึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง
- ฟิลเลอร์แก้ม: ช่วยเติมเต็มแก้มที่ตอบลงตามวัย เพิ่มมิติให้กับใบหน้า และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น มักเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี
- ฟิลเลอร์คาง: ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เสริมคางให้ยาวและได้สัดส่วน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นหรือคางบุ๋ม มักเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งเพื่อรองรับโครงสร้าง
- ฟิลเลอร์หน้าผาก: ช่วยเติมเต็มหน้าผากให้โหนกนูนสวยงาม ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน การฉีดบริเวณนี้ต้องระมัดระวังเพื่อไม่ให้ดูแข็งกระด้าง
- ฟิลเลอร์ขมับ: ช่วยเติมเต็มขมับที่ยุบลงตามวัย ทำให้ใบหน้าดูเต็มอิ่มและอ่อนเยาว์ขึ้น บริเวณนี้มีเส้นเลือดสำคัญ จึงต้องฉีดด้วยความระมัดระวัง
- อื่นๆ: นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ยังสามารถฉีดในบริเวณอื่นๆ ได้ เช่น จมูก (เพื่อเสริมสันจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด) กรอบหน้า (เพื่อเพิ่มความคมชัด) และมือ (เพื่อเติมเต็มร่องลึกและทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น)
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์: เหตุผลที่ทำให้หลายคนเลือกใช้
การฉีดฟิลเลอร์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมในการเสริมความงาม :
- เห็นผลลัพธ์ทันที: ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มักสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
- ใช้เวลาน้อยและไม่ต้องพักฟื้น: การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน ใช้เวลาไม่นาน และโดยทั่วไปไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที
- เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด: ฟิลเลอร์เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรูปลักษณ์โดยหลีกเลี่ยงการผ่าตัด
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ฟิลเลอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกับใบหน้า
- ปรับแต่งได้ตามต้องการ: แพทย์สามารถปรับปริมาณและชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาของแต่ละบุคคล
- สามารถสลายได้ (สำหรับ HA ฟิลเลอร์): ฟิลเลอร์ HA สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส หากไม่พอใจในผลลัพธ์หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (สำหรับ HA ฟิลเลอร์): HA มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งขึ้น
- มีความปลอดภัยเมื่อฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญ: หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย
รู้จักกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย (อัปเดตล่าสุด)
ในประเทศไทย มีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อที่ได้รับการรับรองจาก อย. และเป็นที่นิยมในการใช้ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป ดังนี้:
- Juvederm: (สหรัฐอเมริกา) โดดเด่นด้วยเนื้อเจลที่เรียบเนียนและมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ครอบคลุมทุกปัญหาและทุกบริเวณของใบหน้า
- Restylane: (สวีเดน) มีชื่อเสียงในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการใช้งานในบริเวณต่างๆ และมีเทคโนโลยี NASHA และ OBT ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวและยืดหยุ่น
- Belotero: (สวิตเซอร์แลนด์) มีเนื้อสัมผัสที่ละเอียด บางเบา กลืนไปกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่มีริ้วรอยตื้นๆ และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Perfectha: (ฝรั่งเศส) มีหลากหลายรุ่นที่มีขนาดอนุภาคแตกต่างกัน ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความลึกของริ้วรอยและบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม
- Neuramis: (เกาหลีใต้) เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีความปลอดภัย และมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
- Yvoire: (เกาหลีใต้) มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่เหมาะกับการฉีดในบริเวณต่างๆ ของใบหน้า
- Definisse: (อิตาลี) โดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี XTR™ ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความสามารถในการยกกระชับและเติมเต็มได้ดี
- Belotero Revive: (สวิตเซอร์แลนด์) เป็นฟิลเลอร์ที่เน้นการฟื้นฟูคุณภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย
- e.p.t.q: (เกาหลีใต้) มีเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น คงตัว และปลอดภัย
- Teoxane: (สวิตเซอร์แลนด์) มีเทคโนโลยี RHA (Resilient Hyaluronic Acid) ที่ช่วยให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง เคลื่อนไหวไปตามการแสดงสีหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- Flore:
เพื่อให้เห็นภาพรวมและเปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น สามารถดูได้จากตารางสรุปด้านล่างนี้:
| ยี่ห้อ (Brand) | ประเทศผู้ผลิต (Country of Origin) | ส่วนประกอบหลัก (Main Ingredient) | ระยะเวลาคงอยู่โดยประมาณ (Typical Longevity) | คุณสมบัติ/เทคโนโลยีเด่น (Key Features/Technology) | บริเวณที่นิยมใช้ (Common Areas of Use) |
| Juvederm | สหรัฐอเมริกา (USA) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-24 เดือน (Months) | Hylacross และ Vycross Technology, เนื้อเจลเรียบเนียนหลากหลายรุ่น | ทั่วใบหน้า (Face), ใต้ตา (Under Eyes), ปาก (Lips), แก้ม (Cheeks), คาง (Chin), ขมับ (Temples), หน้าผาก (Forehead) |
| Restylane | สวีเดน (Sweden) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-18 เดือน (Months) | NASHA และ OBT Technology, หลากหลายรุ่นเหมาะกับทุกบริเวณ | ทั่วใบหน้า (Face), ใต้ตา (Under Eyes), ปาก (Lips), แก้ม (Cheeks), คาง (Chin), ขมับ (Temples), หน้าผาก (Forehead) |
| Belotero | สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-18 เดือน (Months) | เนื้อละเอียด บางเบา กลืนไปกับผิวได้ดี | ริ้วรอยตื้นๆ (Fine Lines), ใต้ตา (Under Eyes), ปาก (Lips) |
| Perfectha | ฝรั่งเศส (France) | Hyaluronic Acid (HA) | 4-18 เดือน (Months) | หลากหลายขนาดอนุภาค | ริ้วรอยระดับต่างๆ (Various Wrinkle Depths), เติมเต็ม (Filling) |
| Neuramis | เกาหลีใต้ (South Korea) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-18 เดือน (Months) | ความปลอดภัยสูง ราคาเข้าถึงง่าย | ทั่วใบหน้า (Face) |
| Yvoire | เกาหลีใต้ (South Korea) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-18 เดือน (Months) | หลากหลายรุ่น | ทั่วใบหน้า (Face) |
| Definisse | อิตาลี (Italy) | Hyaluronic Acid (HA) | 8-18 เดือน (Months) | เทคโนโลยี XTR™, เน้นการยกกระชับและเติมเต็ม | แก้ม (Cheeks), คาง (Chin), กรอบหน้า (Jawline) |
| Belotero Revive | สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) | Hyaluronic Acid (HA) + Glycerol | 6-9 เดือน (Months) | ฟื้นฟูคุณภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย | ผิวหน้าโดยรวม (Overall Face), ลำคอ (Neck), หลังมือ (Hands) |
| e.p.t.q | เกาหลีใต้ (South Korea) | Hyaluronic Acid (HA) | 6-15 เดือน (Months) | เทคโนโลยี 2CM, เนื้อยืดหยุ่น คงสภาพดี | หน้าผาก (Forehead), ขมับ (Temples), ใต้ตา (Under Eyes), แก้ม (Cheeks), ร่องแก้ม (Nasolabial Folds), ปาก (Lips), คาง (Chin) |
| Teoxane | สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) | Hyaluronic Acid (HA) | 12-18 เดือน (Months) | เทคโนโลยี RHA, ยืดหยุ่นสูง เคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติ | ทั่วใบหน้า (Face), บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก (Mobile Areas) |
หมายเหตุ: ระยะเวลาคงอยู่ของฟิลเลอร์เป็นค่าประมาณและอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ บริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ฉีด และการดูแลรักษาหลังการฉีด
วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้และปลอม: ปกป้องความปลอดภัยของคุณ
การตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้หรือไม่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี คุณสามารถตรวจสอบได้ดังนี้:
- ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์: กล่องผลิตภัณฑ์ควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีฉลากภาษาไทยที่ระบุชื่อบริษัทนำเข้า เลขทะเบียน อย. และข้อมูลอื่นๆ อย่างชัดเจน
- ตรวจสอบเลขที่Lot: เลขที่ Lot บนกล่องและบนหลอดฉีดยาต้องตรงกัน
- สังเกตสัญลักษณ์และแถบป้องกันการเปิด: ฟิลเลอร์แท้มักมีสัญลักษณ์หรือแถบพิเศษที่ป้องกันการเปิดใช้งานก่อนถึงมือผู้ใช้
- สแกน QR Code: บางยี่ห้อมี QR Code บนกล่องที่สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ได้
- ขอตรวจสอบกล่องก่อนฉีด: ควรแจ้งความประสงค์ขอดูกล่องผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เปิดก่อนการฉีดทุกครั้ง
- สอบถามแหล่งที่มา: สอบถามคลินิกถึงแหล่งที่มาของฟิลเลอร์และบริษัทผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
- ระวังราคาที่ถูกผิดปกติ: ราคาที่ต่ำกว่ามาตรฐานมากอาจเป็นสัญญาณของฟิลเลอร์ปลอมหรือไม่ได้คุณภาพ
- เชื่อมั่นในสัญชาตญาณ: หากรู้สึกไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรสอบถามแพทย์หรือเลื่อนการฉีดออกไปก่อน
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้ารับการรักษา
เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์เป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรปฏิบัติตามข้อควรระวังดังนี้ :
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์:
- แจ้งประวัติการรักษา: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน (รวมถึงยาแก้ปวด วิตามิน และสมุนไพร) และประวัติการแพ้ต่างๆ
- งดยาบางชนิด: งดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยากลุ่ม NSAIDs และวิตามินบางชนิด (เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา) ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์: งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
- งดการทำทรีตเมนต์ผิว: งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว การแว็กซ์ หรือการทำเลเซอร์ในบริเวณที่จะฉีด ประมาณ 2-3 วันก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร: การฉีดฟิลเลอร์โดยทั่วไปไม่แนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีความคาดหวังที่สมจริง: ทำความเข้าใจว่าฟิลเลอร์ช่วยปรับปรุงและฟื้นฟู แต่ผลลัพธ์อาจไม่เทียบเท่ากับการผ่าตัด
หลังการฉีดฟิลเลอร์:
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับ: งดการสัมผัส นวด หรือกดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์
- ประคบเย็น: ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ
- นอนศีรษะสูง: นอนหงายและหนุนศีรษะให้สูงขึ้นในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: งดการออกกำลังกายอย่างหนักประมาณ 24-48 ชั่วโมง เพื่อลดอาการบวมและช้ำ
- หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือสัมผัสความร้อนโดยตรงประมาณ 2 สัปดาห์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและคงสภาพได้ดีขึ้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์
(ความคิดเห็นจากแพทย์): การเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้าจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน
การสลายฟิลเลอร์: ทางเลือกเมื่อต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง
สำหรับฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ที่มีชื่อว่า ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) กระบวนการนี้จะช่วยสลาย HA ฟิลเลอร์ให้กลับไปเป็นสารเหลวและถูกร่างกายดูดซึมไปในที่สุด การฉีดสลายฟิลเลอร์อาจจำเป็นในกรณีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ มีการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ การฉีดสลายฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ค่อนข้างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก HA ฟิลเลอร์
การขูดฟิลเลอร์: กรณีที่จำเป็นและขั้นตอนการรักษา
ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ HA หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากฟิลเลอร์ถาวร การผ่าตัดนำฟิลเลอร์ออก (การขูดฟิลเลอร์) อาจเป็นสิ่งที่จำเป็น การขูดฟิลเลอร์เป็นการผ่าตัดเล็กเพื่อนำสารเติมเต็มที่ไม่พึงประสงค์ออกจากบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นวิธีที่ซับซ้อนและมีการรุกรุกมากกว่าการฉีดสลายฟิลเลอร์ HA การตัดสินใจขูดฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงความจำเป็นและความเหมาะสมของแต่ละกรณี รวมถึงความเสี่ยงและระยะเวลาในการพักฟื้นที่เกี่ยวข้อง
ควรฉีดฟิลเลอร์บ่อยแค่ไหน? ทำความเข้าใจระยะเวลาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่ในผิวหนังนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย :
- ชนิดของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ HA โดยทั่วไปมีระยะเวลาคงอยู่ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดและรุ่นของผลิตภัณฑ์ ฟิลเลอร์กึ่งถาวรอาจอยู่ได้นานกว่านั้น
- บริเวณที่ฉีด: บริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย เช่น ริมฝีปาก อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายตัวได้เร็วกว่าบริเวณที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว เช่น แก้ม
- การเผาผลาญของแต่ละบุคคล: อัตราการเผาผลาญของร่างกายแต่ละคนมีผลต่อระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คงอยู่
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การสัมผัสแสงแดดจัด การสูบบุหรี่ และความเครียด อาจส่งผลต่อระยะเวลาของฟิลเลอร์
- ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด: โดยทั่วไป การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากขึ้นอาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อย
โดยทั่วไป แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลง ซึ่งอาจเป็นช่วง 6-18 เดือนหลังจากการฉีดครั้งแรก การปรึกษาแพทย์จะช่วยให้คุณเข้าใจระยะเวลาที่คาดหวังสำหรับฟิลเลอร์ที่คุณเลือกใช้และวางแผนการรักษาในระยะยาวได้อย่างเหมาะสม
คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ต้องการ การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวหน้า พูดคุยถึงเป้าหมายและความคาดหวัง รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อย่าลังเลที่จะถามคำถามและแสดงความกังวลใดๆ ก่อนเข้ารับการรักษา การตรวจสอบความถูกต้องของผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ก่อนการฉีดทุกครั้งเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ทั้งก่อนและหลังการฉีดอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์กับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หรือในสถานที่ที่ไม่น่าเชื่อถือ
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวพรรณและปรับปรุงรูปลักษณ์ของใบหน้า อย่างไรก็ตาม การเตรียมตัวที่ดี การทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง และการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ หากคุณกำลังพิจารณาการฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ The Vanish Clinic เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับคุณ และตัดสินใจด้วยความมั่นใจ




